วันนี้ (20 พฤษภาคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วงเงินไม่เกิน 3.7 ล้านล้านบาท ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกา พร้อมเอกสารประกอบ 39 เล่มโดยจะนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรบรรจุวาระการพิจารณาในวันที่ 28-30 พฤษภาคมนี้
เมื่อถามว่า ได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนที่ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณดังกล่าวจะเข้าสู่การประชุมของสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรที่ตื่นเต้น ทุกอย่างพ้องต้องกัน เห็นด้วยทุกพรรค ส่วนที่จะมีการปรับ โยกย้าย หรือเปลี่ยนแปลง งบประมาณ เป็นกลไกของทางสภา โดยเรื่องงบประมาณพรรคร่วมรัฐบาลเห็นตรงกันตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่มีอะไร ซึ่งการประชุมสภาจะคุยกันถึงเรื่องงบประมาณ
เมื่อถามว่า การหารือกับพรรคร่วมมีการคุยกันถึงเรื่อง Entertainment Complex ด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราคุยเรื่องงบประมาณก่อน เมื่อถามย้ำว่า ก่อนที่จะเปิดประชุมสภาสมัยสามัญจะคุยเรื่องนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ย้อนถามสื่อ คุยแล้วจะมาแจ้ง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมหารือ ประเด็นสำคัญคือเรื่องการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569
วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า ข่าวที่ออกมาล้วนเป็นข่าวลือ โดย เฉพาะประเด็นการคว่ำร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งมีกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง
วราวุธกล่าวย้ำว่า ทุกพรรคการเมืองมีทิศทางไปในแนวทางเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน การใช้งบประมาณตามกรอบปฏิทินเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง
นายกรัฐมนตรีได้สอบถามทุกคน ซึ่งแต่ละคนต่างยืนยันว่า มีความเห็นไปในแนวทางเดียวกัน สนับสนุนร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว การพูดคุยครั้งนี้ไม่มีใครพุ่งเป้าไปที่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นครั้งที่มีกระแสข่าวความขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย มีแค่หยอกล้อ กระเซ้าเย้าแหย่ถึงกระแสข่าวลือต่างๆ ว่าออกมาได้อย่างไร และทุกคนให้ความสำคัญกับการพิจารณางบประมาณในความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวงที่ดูแลอยู่ เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ได้งบประมาณน้อย ก็ต้องจัดสรรให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
นอกจากนี้ พรรคร่วมรัฐบาลได้เตรียมตัวและข้อมูลในกระทรวงที่แต่ละพรรครับผิดชอบ เพื่อตอบคำถามและชี้แจงข้อสงสัยของฝ่ายค้านอย่างเต็มที่
